วันเสาร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2552

หนูน้อยหมวกแดง


กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีหนูน้อยผู้น่ารักอยู่คนหนึ่ง เป็นที่รักใคร่ของทุกๆคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณยายของหนูน้อย. มีอยู่ครั้งหนึ่ง คุณยายได้ให้หมวกผ้ากำมะหยี่สีแดงแก่หนูน้อย หนูน้อยชอบหมวกนี้มาก และได้ใส่หมวกนี้ไปไหนมาไหนตลอดเวลา จนทุกคนเรียกหนูน้อยนี้ว่า หนูน้อยหมวกแดง

มีอยู่วันหนึ่ง คุณแม่ได้พูดกับหนูน้อยว่า "หนูน้อยหมวกแดงมาหาแม่ซิจ๊ะ ในนี้มีขนมเค้กอยู่หนึ่งชิ้น และ ไวน์อยู่หนึ่งขวด หนูเอาไปให้คุณยายนะจ๊ะ คุณยายของหนูป่วย อย่าลืมรักษามรรยาทนะจ๊ะ บอกคุณยายว่าแม่ฝากความคิดถึงมาด้วยล่ะ แล้วอย่าเถลไถล เดินระวังหกล้มของหกนะจ๊ะ เวลาเข้าไปหาคุณยายในบ้าน ให้กล่าวสวัสดี และ ห้ามไปแอบมองตามช่องก่อนเข้าไปล่ะ"

"ทราบแล้วค่ะ หนูจะทำตามที่คุณแม่บอก" หนูน้อยตอบ พร้อมเขย่ามือคุณแม่เป็นเชิงตอบรับ

คุณยายนั้น อาศัยอยู่ในป่าห่างจากหมู่บ้านครึ่งชั่วโมง เมื่อหนูน้อยเริ่มเดินเข้าไปในป่า ก็มีหมาป่าตัวหนึ่งเดินเข้ามาหา. หนูน้อยไม่รู้ว่าหมาป่านั้นเป็นสัตว์ที่ดุร้าย จึงไม่ได้ตกใจกลัวแต่อย่างใด

"สวัสดีจ๊ะ หนูน้อยหมวกแดง" หมาป่าทักทาย

"ขอบคุณค่ะ คุณหมาป่า"

"หนูจะไปไหนแต่เข้าล่ะจ๊ะเนี่ย, หนูน้อยหมวกแดง?"

"ไปบ้านคุณยายน่ะค่ะ"


"แล้ว นั่นหนูถืออะไรมาล่ะจ๊ะ, ที่ผ้าคลุมอยู่น่ะจ๊ะ?"

"คุณยายป่วยน่ะค่ะ หนูกำลังจะเอาขนมเค้ก ที่คุณแม่อบไว้เมื่อวาน กับไวน์ไปให้ คุณยายจะได้หายไวไว"

"หนูน้อยหมวกแดงจ๊ะ แล้วบ้านคุณยายของหนูอยู่ที่ไหนล่ะจ๊ะ ?"

"บ้านของคุณยาย อยู่ใต้ต้นโอ๊กใหญ่ ลึกเข้าไปในป่าประมาณ 15 นาทีน่ะค่ะ ที่มีแนวพุ่มไม้เฮเซิลล้อมอยู่น่ะค่ะ คุณหมาป่าต้องรู้จักแน่ ๆ" หนูน้อยหมวกแดงตอบ


หมาป่าจึงคิดในใจ "หนูน้อยนี้ ท่าทางน่าอร่อยจริง ๆ รสชาติต้องดีกว่ายายแก่หนังเหนียวแน่ ๆ เอาล่ะ ยังไงก็ใช้เล่ห์เหลี่ยม จับกินทั้งคู่เลยละกัน"

หมาป่าเดินเป็นเพื่อนหนูน้อยไปได้สักพัก ก็พูดขึ้นว่า "หนูน้อยหมวกแดงจ๊ะ ลองมองดูดอกไม้รอบ ๆ สิ ช่างสวยงามจริง ๆ หนูน่าจะแวะดูดอกไม้นะ แล้วยังเสียงนกร้อง ที่ช่างไพเราะนั่นอีก หนูไม่ต้องรีบร้อน ค่อย ๆ เดินเหมือนเดินไปโรงเรียน จะได้ชมความงามของป่าด้วย"


เมื่อหนูน้อยหมวกแดงมองดูรอบ ๆ ก็ได้เห็นแสงอาทิตย์ระยิบระยับ ที่ส่องลอดใบไม้ที่กำลังไหว และพื้นดินนั้น ก็ปกคลุมไปด้วยดอกไม้. หนูน้อยจึงคิดว่า "ถ้าเก็บดอกไม้ไปให้คุณยาย คุณยายต้องดีใจแน่ ๆ และตอนนี้ก็ยังไม่สายมาก ยังไงก็คงกลับบ้านตรงเวลา" คิดดังนั้น หนูน้อยจึงวิ่งออกข้างทางเพื่อไปเก็บดอกไม้ ทุกครั้งที่เก็บมาได้ดอกหนึ่ง หนูน้อยก็จะเห็นอีกดอกหนึ่งที่สวยกว่า อยู่ไกลออกไปจากเส้นทาง เมื่อตามเก็บไปเรื่อย ๆ หนูน้อยก็ออกห่างจากเส้นทางเข้าไปในป่าทีละน้อย ทีละน้อย อย่างไม่รู้ตัว ส่วนเจ้าหมาป่านั้น ก็บึ่งตรงไปยังบ้านคุณยาย และเมื่อถึงที่ก็เคาะประตู

"นั่นใครน่ะ?" คุณยายถาม

"หนูน้อยหมวกแดงค่ะ หนูถือเค้กและไวน์มาให้คุณยายน่ะค่ะ คุณยายเปิดประตูหน่อยค่ะ"

"ปลดกลอนที่ประตูก็เข้ามาได้แล้วจ๊ะ" คุณยายตอบ "ยายลุกไปเปิดไม่ไหว"

หมาป่าปลดกลอน เปิดประตู และเดินเข้าไปในบ้าน ตรงไปยังเตียงของคุณยาย และกินคุณยาย แล้วก็เอาชุดนอนของคุณยายมาใส่ เอาหมวกใส่ปิดบังศีรษะ ปิดม่านหน้าต่าง แล้วก็ซุกตัวนอนบนเตียงของคุณยาย

หลังจากที่หนูน้อยหมวกแดง ได้เก็บดอกไม้จนเต็มไม้เต็มมือ ถือเพิ่มไม่ได้อีกแล้ว จึงนึกถึงคุณยายขึ้นมาได้ จึงเดินทางต่อไปยังบ้านของคุณยาย เมื่อไปถึงหนูน้อยก็แปลกใจที่ประตูบ้านนั้นเปิดอยู่ หนูน้อยจึงเดินเข้าไป หนูน้อยรู้สึกว่าสิ่งต่าง ๆ ดูแปลก ๆ จึงคิดขึ้น "ทำไมเราถึงรู้สึกกลัวจังเลย ปกติแล้วเราก็ชอบบ้านคุณยายนี่นา"

แล้วหนูน้อยก็ตะโกนทักทาย "อรุณสวัสดิ์ค่ะ" แต่ก็ไม่มีเสียงตอบ

หนูน้อยจึงเดินไปที่เตียงของคุณยาย และเปิดม่านหน้าต่าง คุณยายกำลังนอนอยู่บนเตียง โดยมีหมวกคลุมหน้าอยู่ และหน้าคุณยายก็ดูแปลก ๆ

"คุณยายค่ะ ทำไมหูของคุณยายถึงใหญ่จังเลย!"

"จะได้เอาไว้ฟังหนูพูดได้ชัด ๆ ไงจ๊ะ"

"คุณยายค่ะ ทำไมตาของคุณยายถึงใหญ่จังเลย!"

"จะได้เอาไว้มองดูหนูได้ชัด ๆ ไงจ๊ะ"

"คุณยายค่ะ ทำไมมือของคุณยายถึงใหญ่จังเลย!"

"จะได้เอาไว้จับหนูได้ ถนัด ๆ ไงจ๊ะ"


"คุณยายค่ะ ทำไมปากของคุณยายถึงดูน่ากลัวจังเลย!"

"จะได้เอาไว้กินหนูได้ถนัด ๆ ไงจ๊ะ"

ก่อนที่จะจบคำพูดนั้น หมาป่าก็กระโดดออกจากเตียง และกินหนูน้อยหมวกแดงผู้น่าสงสาร หลังจากอิ่มหมีพีมันแล้ว หมาป่าก็ได้คืบคลานกลับขึ้นไปบนเตียง ผลอยหลับไป และเริ่มกรนเสียงดัง


ขณะนั้นมี นักล่าสัตว์ผ่านทางมา และคิดในใจว่า "คุณยายนี่กรนเสียงดังจริง ๆ น่าจะแวะเข้าไปดูสักหน่อย ว่าเป็นอะไรไปรึเปล่า"

คิดได้ดังนั้น นักล่าสัตว์จึงเดินเข้าไปข้างใน ในขณะที่เดินเข้าไปใกล้เตียงนอน เขาได้พบหมาป่านอนหลับอยู่ "ในที่สุด ก็หาตัวเจอจนได้ เจ้าสัตว์ดุร้าย" นักล่าสัตว์พูด "เสียเวลาไล่ล่าซะตั้งนาน"

ในขณะที่เขาจ่อปืนไปยังหมาป่า ก็เกิดเอะใจขึ้นมา ว่าหมาป่าอาจกินคุณยายเข้าไป และเขาอาจช่วยคุณยายได้ ดังนั้นแทนที่จะใช้ปืนยิง เขาจึงใช้กรรไกรเริ่มตัดหนังท้องหมาป่าให้เปิดออก เริ่มตัดไปได้ไม่เท่าไร เขาก็เห็นหมวกสีแดงข้างใน เขาจึงตัดให้ท้องหมาป่าเปิดกว้างออก แล้วหนูน้อยหมวกแดงก็กระโดดออกมา และร้องคร่ำครวญ "โฮ หนูตกใจกลัวมากเลย! ข้างในท้องของหมาป่า มืดจนมองอะไรไม่เห็นเลย!"

และแล้วคุณยาย ก็ออกมาจากท้องหมาป่า ด้วยอาการหอบหายใจอย่างยากลำบาก แล้วหนูน้อยหมวกแดง ก็ไปหาก้อนหินใหญ่ใส่ในท้องหมาป่าแทน เมื่อหมาป่าตื่นขึ้นมา และพยายามจะวิ่งหนี จึงถูกน้ำหนักก้อนหินที่อยู่ในท้อง ถ่วงล้มลงตายคาที่

ทั้งสามคนจึงลงเอยอย่างมีความสุข โดยนักล่าสัตว์ได้ถลกเอาหนังหมาป่ากลับไป คุณยายได้รับประทานขนมเค้กและไวน์ ที่หนูน้อยหมวกแดงนำมาให้ และหนูน้อยหมวกแดงนั้นคิดในใจว่า "ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ จะไม่เถลไถลเข้าไปในป่าคนเดียว ถ้าคุณแม่บอกห้ามไว้

วันเสาร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2551

Little Red Cap

Little Red Cap
Jacob and Wilhelm Grimm

Once upon a time there was a sweet little girl. Everyone who saw her liked her, but most of all her grandmother, who did not know what to give the child next. Once she gave her a little cap made of red velvet. Because it suited her so well, and she wanted to wear it all the time, she came to be known as Little Red Cap.

One day her mother said to her, "Come Little Red Cap. Here is a piece of cake and a bottle of wine. Take them to your grandmother. She is sick and weak, and they will do her well. Mind your manners and give her my greetings. Behave yourself on the way, and do not leave the path, or you might fall down and break the glass, and then there will be nothing for your grandmother. And when you enter her parlor, don't forget to say 'Good morning,' and don't peer into all the corners first."

"I'll do everything just right," said Little Red Cap, shaking her mother's hand.

The grandmother lived out in the woods, a half hour from the village. When Little Red Cap entered the woods a wolf came up to her. She did not know what a wicked animal he was, and was not afraid of him.

"Good day to you, Little Red Cap."

"Thank you, wolf."

"Where are you going so early, Little Red Cap?"

"To grandmother's."

"And what are you carrying under your apron?"

"Grandmother is sick and weak, and I am taking her some cake and wine. We baked yesterday, and they should be good for her and give her strength."

"Little Red Cap, just where does your grandmother live?"

"Her house is good quarter hour from here in the woods, under the three large oak trees. There's a hedge of hazel bushes there. You must know the place," said Little Red Cap.

The wolf thought to himself, "Now that sweet young thing is a tasty bite for me. She will taste even better than the old woman. You must be sly, and you can catch them both."

He walked along a little while with Little Red Cap, then he said, "Little Red Cap, just look at the beautiful flowers that are all around us. Why don't you go and take a look? And I don't believe you can hear how beautifully the birds are singing. You are walking along as though you were on your way to school. It is very beautiful in the woods."

Little Red Cap opened her eyes and when she saw the sunbeams dancing to and fro through the trees and how the ground was covered with beautiful flowers, she thought, "If a take a fresh bouquet to grandmother, she will be very pleased. Anyway, it is still early, and I'll be home on time." And she ran off the path into the woods looking for flowers. Each time she picked one she thought that she could see an even more beautiful one a little way off, and she ran after it, going further and further into the woods. But the wolf ran straight to the grandmother's house and knocked on the door.

"Who's there?"

"Little Red Cap. I'm bringing you some cake and wine. Open the door."

"Just press the latch," called out the grandmother. "I'm too weak to get up."

The wolf pressed the latch, and the door opened. He stepped inside, went straight to the grandmother's bed, and ate her up. Then he put on her clothes, put her cap on his head, got into her bed, and pulled the curtains shut.

Little Red Cap had run after the flowers. After she had gathered so many that she could not carry any more, she remembered her grandmother, and then continued on her way to her house. She found, to her surprise, that the door was open. She walked into the parlor, and everything looked so strange that she thought, "Oh, my God, why am I so afraid? I usually like it at grandmother's."

She called out, "Good morning!" but received no answer.

Then she went to the bed and pulled back the curtains. Grandmother was lying there with her cap pulled down over her face and looking very strange.

"Oh, grandmother, what big ears you have!"

"All the better to hear you with."

"Oh, grandmother, what big eyes you have!"

"All the better to see you with."

"Oh, grandmother, what big hands you have!"

"All the better to grab you with!"

"Oh, grandmother, what a horribly big mouth you have!"

"All the better to eat you with!"

The wolf had scarcely finished speaking when he jumped from the bed with a single leap and ate up poor Little Red Cap. As soon as the wolf had satisfied his desires, he climbed back into bed, fell asleep, and began to snore very loudly.


A huntsman was just passing by. He thought, "The old woman is snoring so loudly. You had better see if something is wrong with her."

He stepped into the parlor, and when he approached the bed, he saw the wolf lying there. "So here I find you, you old sinner," he said. "I have been hunting for you a long time."
He was about to aim his rifle when it occurred to him that the wolf might have eaten the grandmother, and that she still might be rescued. So instead of shooting, he took a pair of scissors and began to cut open the wolf's belly. After a few cuts he saw the red cap shining through., and after a few more cuts the girl jumped out, crying, "Oh, I was so frightened! It was so dark inside the wolf's body!"

And then the grandmother came out as well, alive but hardly able to breathe. Then Little Red Cap fetched some large stones. She filled the wolf's body with them, and when he woke up and tried to run away, the stones were so heavy that he immediately fell down dead.
The three of them were happy. The huntsman skinned the wolf and went home with the pelt. The grandmother ate the cake and drank the wine that Little Red Cap had brought. And Little Red Cap thought, "As long as I live, I will never leave the path and run off into the woods by myself if mother tells me not to."

--------------------------------------------------------------------------------

They also tell how Little Red Cap was taking some baked things to her grandmother another time, when another wolf spoke to her and wanted her to leave the path. But Little Red Cap took care and went straight to grandmother's. She told her that she had seen the wolf, and that he had wished her a good day, but had stared at her in a wicked manner. "If we hadn't been on a public road, he would have eaten me up," she said.

"Come," said the grandmother. "Let's lock the door, so he can't get in."
Soon afterward the wolf knocked on the door and called out, "Open up, grandmother. It's Little Red Cap, and I'm bringing you some baked things."

They remained silent, and did not open the door. Gray-Head crept around the house several times, and finally jumped onto the roof. He wanted to wait until Little Red Cap went home that evening, then follow her and eat her up in the darkness. But the grandmother saw what he was up to. There was a large stone trough in front of the house.

"Fetch a bucket, Little Red Cap," she said to the child. "Yesterday I cooked some sausage. Carry the water that I boiled them with to the trough." Little Red Cap carried water until the large, large trough was clear full. The smell of sausage arose into the wolf's nose. He sniffed and looked down, stretching his neck so long that he could no longer hold himself, and he began to slide. He slid off the roof, fell into the trough, and drowned. And Little Red Cap returned home happily, and no one harmed her.

http://www.pitt.edu/~dash/grimm026.html